Marzano & Kendal. (2007) ได้พัฒนาการจัดกลุ่มพฤติกรรมการเรียนรู้ขึ้นใหม่แบ่งเป็น 1) ระบบปัญญา (Cognitive System) 2) ระบบอภิปัญญา (Meta Cognitive System) และ 3) ระบบตนเอง (Self System) และได้จำแนกอนุกรมวิธานจุดมุ่งหมายทางการศึกษาเป็น 6 ขั้น
ขั้นที่ 1 การดึงกลับคืนมา (Retrieval) ได้แก่
การระบุข้อความได้ (Recognizing) การระลึกได้ (Recalling)
และลงมือปฏิบัติได้ (Executing)
ขั้นที่ 2 ความเข้าใจ (Comprehension) ได้แก่ การบูรณาการ (Integration)
และการทำให้เป็นสัญลักษณ์ (Symbolizing)
ขั้นที่ 3 การวิเคราะห์ (Analysis) ได้แก่ การจับได้ (Matching)
แยกประเภทได้ (Classifying) วิเคราะห์ความผิดพลาดได้
(Analyzing Error) ติดตามได้ (Generalizing) และชี้ให้จำเพาะเจาะจงได้ (Specifying)
ขั้นที่ 4 การนำความรู้ไปใช้ (Knowledge Utilizing) ได้แก่
การตัดสินใจ (Decision Making) การแก้ปัญหา (Problem
Solving) การทดลองปฏิบัติ (Experimenting) และการสืบค้นต่อไปให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง
(Investigating)
ขั้นที่ 5 อภิปัญญา (Meta-cognition) ได้แก่ การระบุจุดหมาย (Specifying
Goals) การกำกับติดตามกระบวนการ (Process Monitoring) การทำให้เกิดความชัดเจนในการกำกับติดตาม (Monitoring Clarity) เตะการกำกับติดตามตรวจสอบความถูกต้องชัดเจน (Monitoring Accuracy)
ขั้นที่ 6 การมีระบบความคิดของตนเอง (Self-System thinking) ได้แก่
การตรวจสอบประสิทธิภาพ (Examining Efficacy) การตรวจสอบการตอบสนองทางอารมณ์
(Examining Emotional Response) และการตรวจสอบแรงจูงใจ (Examining
Motivation)
อภิปัญญา (Meta Cognitive System) หมายถึง
ความสามารถของบุคคลที่มีต่อกระบวนการคิดของตนเอง รู้ว่าอะไรที่ เหมาะสมกับตนเองในการเรียนรู้
ตลอดจนสามารถเลือกกลวิธี ในการวางแผน กำกับควบคุม และ ประเมินการเรียนรู้ของตนเองได้
เพื่อให้การเรียนรู้หรือการปฏิบัติงานต่างๆ บรรลุตามวัตถุประสงค์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบของ Metacognition มี 3 องค์ประกอบ
ได้แก่ (1) ความรู้ (2) การควบคุม ตนเอง
และ (3) ความตระหนักต่อกระบวนการคิด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
(1) ความรู้
เป็นความสามารถของผู้เรียนเกี่ยวกับการรู้กระบวนการคิดของตนเอง ในการเรียนรู้หรือการปฏิบัติงาน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้ใน 3 ด้าน ดังนี้
1) ความรู้ด้านเนื้อหาสาระ เป็นความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบพื้นฐาน ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องรู้ในการเรียนรู้หรือการปฏิบัติงาน
ทั้งในเรื่องความรู้เกี่ยวกับลักษณะของงาน ที่ทำ
และความรู้เกี่ยวกับความสามารถของตนเอง ดังนี้
1.1) ความรู้เกี่ยวกับลักษณะของงานที่ทำ
เป็นการรู้ว่างานนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องใดในด้านข้อเท็จจริง คำศัพท์และนิยาม เช่น
ถ้าผู้เรียนต้องการแก้โจทย์ปัญหา คณิตศาสตร์จะต้องรู้ว่าโจทย์ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาคณิตศาสตร์เรื่องใด
1.2) ความรู้เกี่ยวกับความสามารถของตนเอง เป็นความสามารถ ในการวิเคราะห์ตนเองว่ามีความรู้ความสามารถในการเรียนรู้หรือการปฏิบัติงานมากน้อยเพียงใด
เช่น ผู้เรียนรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของตนเอง รู้ว่าตนเองรู้อะไร
และมีความรู้ในระดับใด เพื่อที่จะได้ หาวิธีการที่เหมาะสมในการเรียนรู้ของตนเอง
2) ความรู้ในวิธีการ เป็นความรู้เกี่ยวกับวิธีการหรือกระบวนการต่างๆ
ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้หรือการปฏิบัติงาน เช่น
ในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ผู้เรียนต้องรู้ว่ามีวิธีการหรือกระบวนการแก้ปัญหาแบบใดบ้าง
เพื่อให้สามารถหาคำตอบของโจทย์ ปัญหานี้ได้
3) ความรู้ที่ใช้เพื่อตัดสินใจเลือกวิธีการ
เป็นความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ ลักษณะของวิธีการที่ใช้ในการเรียนรู้หรือการปฏิบัติงาน
เพื่อตัดสินใจเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมและ มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น
ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ว่าวิธีการหรือกระบวนการแก้ปัญหาที่มีอยู่ วิธีการใด เป็นวิธีที่ใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ง่ายต่อการอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจ และเหมาะสมที่สุดกับ โจทย์ปัญหา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น