“ทำงานเชิงรุก” หรือ Proactive
นั้น หมายถึงการทำงานของคนที่ชอบคิด ชอบวางแผน
จัดการและเตรียมการทุกอย่าง
พร้อมแก้ปัญหาและทำงานอย่างมีคุณภาพเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต ซึ่งตรงข้ามกับคนที่ทำงานแบบ
Reactive ที่เป็นคนทำงานวันต่อวัน
ทำแต่สิ่งที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น
ไม่ค่อยคิดถึงความก้าวหน้าหรือพัฒนาตนเองเท่าใดนัก เพราะไม่ชอบความยุ่งยาก
ไม่อยากจัดการวางแผนใด ๆ ล่วงหน้า ถ้าใช้ภาษาบ้าน ๆ ก็เรียกว่า เช้าชามเย็นชาม
ซึ่งอย่างหลังคงไม่ค่อยมีความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานเท่าไหร่
ก่อนที่จะเริ่มทำงานเชิงรุกที่เน้นการพุ่งสู่จุดหมายนั้น
อย่าลืมเตรียมตัวให้ดี เพราะถ้าทำโดยไม่ได้ตระเตรียมการอะไรไว้
จะกลายเป็นพลาดออกตัวฟรี ต้องมานั่งเครียดแก้ปัญหาในอนาคตอีก ไม่คุ้มกัน
ยิ่งเป็นน้อง ๆ ที่เพิ่งเรียนจบ เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงานแล้ว
ยิ่งต้องศึกษาและเตรียมตัวให้ดีเสียก่อน เพราะการทำงานเชิงรุกนั้น
เหมาะกับคนที่ทำงานชนิดที่เรียกว่า รอบคอบ ช่างสังเกต มองรอบด้าน และไม่กลัวปัญหา
ซึ่งการทำงานเชิงรุกนั้น จะได้ผลดีสูงสุดก็ต่อเมื่อ
1. วางแผนรองรับไว้อย่างละเอียดรอบคอบ
การทำงานเชิงรุกนั้น
จำเป็นต้องมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง ต้องวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน
และเตรียมตัวแก้ปัญหาต่าง ๆ เนื่องจากการทำงานที่เน้นการจู่โจม พุ่งไปข้างหน้านั้น
หากไม่เตรียมแผนการที่รัดกุม โอกาสพลาดพลั้งก็มีมาก ไม่ว่างานนั้นจะเป็นชิ้นเล็กหรือใหญ่แค่ไหน
การวางแผนไว้อย่างรัดกุม นอกจากจะช่วยให้งานรุ่งแล้ว
ยังช่วยลดเวลาในการทำงานได้ด้วย
2. มีประสบการณ์มาก่อน
สำหรับคนที่ทำงานเชิงรุก
การมีประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมนั้นสำคัญมาก หากไม่เคยเห็นแนวทางการวางแผน
ปัญหาและการแก้ปัญหามาก่อน การแก้ปัญหาที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก
ย่อมยากกว่าปัญหาที่เคยผ่านมาก่อน รวมทั้งการศึกษา Case study ดี ๆ ก็นับเป็นอีกทางลัดในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานได้อีกด้วย
3. สามารถมองเห็นปัญหาและคว้าโอกาสได้ทันท่วงที
ความช่างสังเกตและมองการณ์ไกล รวมทั้งการมองแบบ Overview
ก็เป็นอีกประการหนึ่งที่คนทำงานเชิงรุกควรจะมีเพื่อสร้างสรรค์งานให้สำเร็จ
เมื่อเห็นภาพรวมของงานแล้ว การวางแผนและจัดการปัญหาต่าง ๆ ก็จะง่ายขึ้น
เพราะรู้ว่าควรจะให้ความสำคัญกับงานส่วนไหนก่อนส่วนไหนหลัง
ถ้าทักษะตรงนี้พัฒนาขึ้น นอกจากจะมองเห็นปัญหาในอนาคตแล้ว ยังอาจมองเห็นโอกาสที่ดี
แล้วไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสนั้น
4. เป็นนักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ไม่มีงานใดที่จะไม่ประสบปัญหา
แม้งานนั้นจะวางแผนอย่างรัดกุมเพียงใดก็ตาม
ปัญหาเฉพาะหน้ามักจะเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เช่น
การทำงานพิมพ์หนังสือที่มีการวางไทม์ไลน์ วางแผน จัดการขั้นตอนทุกอย่างที่รัดกุมแล้ว
แต่เกิดปัญหาที่โรงพิมพ์ ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่เหนือการคาดเดา
สิ่งที่ผู้ทำงานต้องทำก็คือ การใช้ประสบการณ์มาแก้ปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโรงพิมพ์ ขยับวันส่งงาน ฯลฯ
ซึ่งผู้ทำงานต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ และต้องอาศัยความกล้าตัดสินใจมากทีเดียว
5. ลุยแก้ปัญหาที่ต้นตอ
เมื่อสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว
การมองลึกลงมาถึงต้นตอของปัญหา แล้วจัดการไว้ก่อนอย่างรัดกุมยิ่งขึ้น
(ซึ่งส่วนมากจะเรียนรู้แล้วได้ใช้ในปัญหาครั้งหน้า) ถ้าไม่ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
ต้นตอปัญหาที่ดูเหมือนเล็ก ก็อาจเติบโตขึ้น
สร้างผลกระทบหรือกลายเป็นปัญหาเฉพาะหน้าในอนาคตได้ ยกตัวอย่างเช่น
ปัญหาเฉพาะหน้าข้อที่แล้ว หากมองลึกลงไปถึงต้นตอ
อาจมีสาเหตุมาจากการค้นคว้าข้อมูลไม่เพียงพอ และไม่ได้เตรียมแผนสำรอง เช่น
การที่โรงพิมพ์มีปัญหาไม่สามารถจัดพิมพ์หนังสือให้ได้ ก็อาจมีต้นเหตุมาจากการไม่ได้สืบให้ดีว่าโรงพิมพ์นี้มีความพร้อมแค่ไหน
หรือการวางไทม์ไลน์ไม่ดี ไม่เผื่อเวลา จนทำให้ต้องไปเร่งงานฝั่งโรงพิมพ์
รวมทั้งการไม่วางแผนสำรอง เมื่อโรงพิมพ์ A มีปัญหา
จะต้องเตรียมโรงพิมพ์ B ไว้สำรอง เป็นต้น
6. มองโลกในแง่บวก
การทำงานด้วยการมองโลกในแง่บวก
นอกจากจะช่วยในเรื่องมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานแล้ว
ยังเป็นอีกพื้นฐานหนึ่งที่ช่วยให้เราเรียบเรียงความคิดในมุมมองที่กว้างขึ้น
มองภาพรวมของงานและปัญหาได้กว้าง ได้ถี่ถ้วนขึ้น
การมองโลกในแง่บวกยังทำให้เราใจเย็นลง ใจกว้างขึ้น ไม่ตื่นตระหนกกับปัญหาเฉพาะหน้า
และปัญหาใหญ่หลวงต่าง ๆ ดั่งสุภาษิตที่ว่า “ช้า ๆ
ได้พร้าเล่มงาม” คือ ช้าอย่างรอบคอบและทำงานให้ Sharp
เครื่องร้อนเพื่อลุยงานตลอดเวลา
การทำงานเชิงรุก Proactive นั้น มีผลดีต่อการทำงานและพัฒนาตัวเองอย่างมาก
ความมุ่งมั่นและรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จ
แต่ก็อย่าลืมปล่อยตัวเองพุ่งไปข้างหน้า โดยไม่หันกลับมามองตัวเองหรือทีม
เพราะการทำงานอย่างหนักโดยไม่คิดถึงเรื่องสุขภาพ ก็ทำให้เกิดผลเสียในระยะยาวได้
จะมัวหาเงินมาซื้อสุขภาพก็คงไม่คุ้มกัน และการทำงานเป็นทีมก็ยังเป็นสาเหตุหลัก ๆ
ที่ทำให้งานขององค์กรประสบความสำเร็จ เพราะทีมจะช่วยเติมเต็มแผนงาน
และยังช่วยคิดแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยกันอีกด้วย (คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความดี ๆ
พร้อมเคล็ดลับในการทำงาน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น